สาวๆทุกคนใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมราศรีให้ดูเป็นสาวชิค สุดคูลตัวแม่แล้ว ยังเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกระเป๋าที่ใช้ได้ด้วยค่ะ ยิ่งเป็นตัวท็อปของรุ่น บอกเลยว่า นานไปมูลค่าไม่มีตก โดยฉพาะสีดำ ที่ถือเป็นสีคลาสสิค เข้าได้กับทุกลุคส์ แถมหิ้วแล้วหรูดูดีอีกต่างหาก วันนี้เลดี้เลยเช็คลิสต์ 10 กระเป๋าแบรนด์เนม ตัวท็อปมาให้สาวๆไว้ช็อปกันแล้วค่ะ ไม่แน่นะ เร็วๆนี้สาวๆอาจจะได้ลงทุนซื้อไว้ใช้สักใบก็ได้ค่า
ITEM
Chanel boy bag
หนึ่งในรุ่นยอดฮิตของ Chanel ที่แม้จะราคาแรง แต่สาว ๆ ก็ยอมทุ่มทุนและยกให้ใบนี้ควรค่าแก่การซื้อมาเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม เพราะด้วยรูปทรงเหลี่ยมที่นอกจากจะดูโมเดิร์นแล้ว ยังให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน จะสะพายข้างหรือคาดลำตัวก็ดูไม่พะรุงพะรัง ตอบโจทย์คนที่ต้องการความคล่องตัวและลุคที่ดูทะมัดทะแมง สายกระเป๋าเป็นสายโซ่โลหะลายถักไขว้ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการใช้วัสดุหนังบริเวณที่สายพาดไหล่ผู้ใช้ ทำให้ไม่เจ็บไหล่เวลาสะพายไปนาน ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงาน การออกแบบ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ของ Karl Lagerfeld ดีไซเนอร์ชื่อดัง เจ้าพ่อวงการแฟชั่น ผู้สร้างผลงานระดับโลกมาแล้วมากมาย
Saint Laurent Kate
ถ้าพูดถึงดีไซน์เรียบหรู ต้องยกให้แบรนด์ Saint Laurent หรือที่เรามักเห็นโลโก้บนกระเป๋าเป็นตัวอักษร YSL เลยค่ะ ใบนี้ทำจากหนังวัวเรียบ สีดำสนิท เพิ่มความโดดเด่นหรูหราด้วยพู่และสายสะพายโซ่ที่ทำจากโลหะสีทอง ช่วยเสริมลุคของสาว ๆ ให้ดูแพงแต่ไม่เว่อร์วัง นอกจากนี้ ยังมีขนาดกะทัดรัด หยิบมาใช้เป็นกระเป๋าถือออกงานก็สวย ไม่เทอะทะ และถึงแม้ใบนี้จะถอดสายสะพายไม่ได้ แต่ก็สามารถดึงสายสะพายลงมาซ่อนไว้ในกระเป๋าได้ ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียวค่ะ
FENDI Peekaboo
ถือเป็นกระเป๋ารุ่นคลาสสิคของแบรนด์ Fendi เลยก็ว่าได้กับ Fendi- Peekaboo เป็นกระเป๋าที่เปิดตัวในปี 2009 ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ตัวพ่ออย่าง Karl Lagerfeld โดยมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งดูเหมาะสำหรับสาวออฟฟิศ ภายในตัวกระเป๋ามีลูกเล่นที่โดดเด่นอย่างตัวฮาร์ดแวร์ที่มีลักษณะคล้ายดวงตา และพวงกุญแจตุ๊กตาที่ไว้ห้อยประดับ แม้รูปทรงของกระเป๋าจะดูแข็ง ๆ ไปบ้าง แต่ Fendi ก็เสริมลูกเล่นพวกนี้มาไว้ ทำให้ตัวกระเป๋าไม่ดูน่าเบื่อจำเจอีกต่อไป นอกจากนี้ Peekaboo ยังเป็น classic line ของทางแบรนด์อีกด้วย ทำให้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี รุ่นนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง กี่ปีๆก็ไม่มีเอ้าท์เลยค่ะ
Prada Galleria Saffiano Leather Bag
สำหรับกระเป๋า Prada เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ควรค่าแก่การซื้อเก็บเป็นอย่างมาก เพราะด้วยหนัง Saffiano Leather สีดำที่มีความทนทานเป็นพิเศษ ทั้งยังผ่านการเคลือบแว็กซ์และเคลือบลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Prada รวมถึงมีดีไซน์ที่เรียบหรูและมีพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของมากมายทำให้กระเป๋า Prada ใบนี้เหมาะแก่การใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ สายกระเป๋ายังสามารถถอดออกได้จึงสามารถใช้งานได้ทั้งแบบคล้องแขนหรือใช้สะพายไหล่ได้เลยค่ะ
Dior ‘Lady Dior’
หรูแบบมีคลาสกับ Lady Dior Bag in Black Lambskin ที่มีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้ทั้งแบบสะพาย และแบบมือถือในใบเดียว เดิมที Lady Dior มีชื่อรุ่นว่า Chou Chou แต่ถูกเปลี่ยนในภายหลังเพื่อเป็นเกียรติแก่ Lady Diana เนื่องจากเจ้าหญิงไดอาน่าทรงถือกระเป๋ารุ่นนี้อวดโฉมสายตาชาวโลกในช่วงแรก ๆ ที่กระเป๋าออกวางขาย จึงเกิดกระแสความสนใจในตัวกระเป๋า Dior รุ่นนี้มากขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ทางแบรนด์จึงเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น Lady Dior ด้วยดีไซน์ที่ดูเท่สตรอง แต่ก็ยังคงความเฟมินีนไว้ได้อย่างลงตัว บวกกับขนาดและสีสันที่มีให้เลือกหลากหลาย Lady Dior จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “it bag” ที่ผู้หญิงทุกคนควรมีค่ะ
Celine Mini Luggage
เป็นอีกกระเป๋าที่เรามักจะเห็นดารา เซเลป หรือนักธุรกิจสาว ใช้กันเยอะมาก ด้วยการออกแบบของ Phoebe Philo ดีไซเนอร์สาวชาวอังกฤษ กระเป๋ารูปทรงสี่เหลี่ยม เพิ่มลูกเล่นเก๋ไก๋ด้วยการไล่ความกว้างขึ้นไป มาพร้อมกับลายคลื่นที่ด้านหน้ากระเป๋า ทำให้ดีไซน์ดูไม่แข็งทื่อ ผลิตจากหนังลูกวัวแท้ มีทั้งแบบเรียบ (Smooth Calfskin) และแบบหยาบ (Drummed Calfskin) ตอบโจทย์สาว ๆ ได้ทุกสไตล์เลยค่ะ เหมาะกับคนที่กำลังมองหา Everyday Bag เพราะด้วยขนาดที่ไม่เล็กจิ๋วแบบไซส์มินิทั่วไป ช่องใส่ของตรงกลางเปิดได้กว้างและมีซิปปิดอย่างดี แถมยังมีสายสะพายยาวที่สามารถถอดออกได้ จะหยิบมาเป็นกระเป๋าถือในวันทำงานหรือสะพายคาดลำตัวในวันชิล ๆ ก็ดูดีไม่แพ้กัน
Hermès Kelly
กระเป๋ารุ่นนี้มีต้นแบบมาจากกระเป๋าสำหรับเก็บอานม้า ที่ได้รับการออกแบบโดย เอมิล โมริช แอร์เมส (Émile Maurice Hermès) มีรูปทรงที่เหมาะสำหรับทั้งคล้องแขนและสะพาย วัสดุหนังที่ใช้ทำก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น ตั้งแต่หนังลูกวัว หนังนกกระจอกเทศ หรือหนังจระเข้ กระเป๋าแต่ละใบ ใช้เวลาในการผลิตไม่ต่ำกว่า 16 ชั่วโมง โดยช่างทำกระเป๋าที่ต้องได้รับการฝึกอย่างน้อย 3 ปี ที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะเดินเข้าไปหาซื้อกระเป๋ารุ่นนี้กันง่ายๆ เพราะต้องลงชื่อจองหรือต้องเป็นลูกค้าคนสำคัญของ Hermès เท่านั้น ถึงจะได้สิทธิ์จับจองเป็นเจ้าของ
Gucci GG Marmont small matelassé leather
Gucci เป็นแบรนด์ดังจากอิตาลีซึ่งผู้หญิงทั่วทั้งโลกรู้จักเป็นอย่างดี โดยสิ่งที่โดดเด่นของกระเป๋าใบนี้ก็คือสัญลักษณ์รูป Double G อยู่ตรงกลางกระเป๋า มาพร้อมกับวัสดุซึ่งทำมาจากหนังลายนูน (Matelassé) รูปหัวใจด้านหลังสุดน่ารัก นอกจากนี้สายสะพายซึ่งเป็นสายโซ่เล็ก ๆ ที่สามารถปรับเลื่อนเป็นกระเป๋าสำหรับสะพายไหล่หรือคล้องแขนก็ได้ ภายในสามารถบรรจุสิ่งของที่จำเป็น ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ รวมถึงเครื่องสำอางต่าง ๆ ได้เลย
Stella McCartney Falabella Fold-Over Tote
กระเป๋ารุ่นซิกเนเจอร์ของ Stella McCartney ที่ใครเห็นเป็นต้องสะดุดตากับดีไซน์เก๋ ๆ ซึ่งแม้ว่าจะมาพร้อมโทนสีสุดคลาสสิกอย่างสีดำและสีเงิน แต่รูปทรงและดีไซน์นั้นมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สะพายแล้วดูชิคสุด ๆ ที่สำคัญ เนื่องจากตัวกระเป๋านั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่และไม่ได้มีรูปทรงชัดเจนนัก จึงสามารถจุของได้อย่างอิสระ แถมยังพับลงมาครึ่งหนึ่งเพื่อใช้เป็นกระเป๋าถือได้อีกด้วย บอกเลยว่า นอกจากจะตอบโจทย์ผู้หญิงที่ชอบพกของเยอะแล้ว ยังโดนใจสาว ๆ สายแฟชั่นไปเต็ม ๆ เลยล่ะค่ะ
Balenciaga Classic City
Balenciaga Classic City Bag ถือได้ว่าเป็น It Bag ที่ครองใจเหล่าแฟชั่นนิสต้าอย่างมากในยุค 90s ด้วยดีไซน์หนังย้วยๆ ที่โดดเด่น แต่ทนทาน เป็นรอยได้ยาก มาพร้อมกับ Hardwear ขัดเงาสีเงิน หรือสี Palladium ที่เป็นหมุดโลหะรอบกระเป๋า กระเป๋าช่องซิปด้านหน้าประดับด้วยพู่หนังยาวแปลกตา ภายใน บุด้วยผ้าสีดำ กระเป๋าซิปตีตราแบรนด์ Balenciaga ไว้บนแผ่นหนัง พร้อมกระจกแบบพกพามีสายหนัง สายสะพายสามารถปรับระดับ ถอดออกได้และเสริมด้วยที่รองไหล่ ด้วยสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แถมสามารถเข้ากันได้กับทุกลุคการแต่งตัวทำให้ Classic City Bag ยังคงเป็นขวัญใจสาวๆจนถึงทุกวันนี้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ แต่ละแบรนด์หรูหรา แถมรูปทรงยังคลาสสิค ใช้ได้นาน หลายโอกาส ไม่มีตกรุ่น บางรุ่นนานๆไปราคายังพุ่งขึ้นสูงได้อีกต่างหาก หวังว่า บทความนี้จะช่วยสาวๆเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกที่เหมาะสมกับตัวเองไว้ใช้งานได้ยาวๆนะคะ เลดี้รับรองว่าคุ้มแน่นอน