มีเลดี้คนไหนกำลังอยากลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่างกันอยู่มั้ยคะ? เชื่อว่าน่าจะเคยลองกันมาหลายวิธีแล้ว เห็นผลบ้าง ไม่เห็นผลบ้าง บางคนอาจจะท้อไปแล้ว ใจเย็นๆนะคะ มาทางนี้ก่อนค่ะ นอกจากทุกอย่างจะต้องใช้เวลาแล้ว ยังต้องใช้วิธีการที่เหมาะกับตัวเราด้วยนะ ร่างกายคนเราแตกต่างกัน ไลฟ์สไตล์ของเราก็ต่างกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้วิธีไดเอทที่ต่างกันด้วยจริงมั้ยคะ วันนี้เลดี้มอนสเตอร์มี 4 วิธีไดเอทด้วยการ “กิน” มาฝากกันค่ะ มาดูกันว่าต้องกินอะไร กินแบบไหน และเหมาะกับใครบ้าง
- IF หรือ Intermittent Fasting -
IF คืออะไร?
วิธีการลดน้ำหนักแบบ IF หรือ Intermittent Fasting นี้เป็นที่นิยมกันทั่วโลกมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ และปัจจุบันก็เป็นวิธีที่นิยมมากๆสำหรับคนรุ่นใหม่ มันคือการจำกัดเวลาในการกินอาหาร และอดอาหารในแต่ละวัน ในช่วงที่เราอด ร่างกายก็จะดึงไขมันที่สะสมไว้ออกมาใช้ โดยจะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ
IF กินยังไง?
การกิน IF มีอยู่ 6 วิธี
1. Lean Gains เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด จะเป็นการกินอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง ในช่วงแรกอาจจะเริ่มจากการกินอาหาร 10 ชั่วโมง และอดอาหาร 14 ชั่วโมงก่อน แล้วค่อยๆ ปรับชั่วโมงการอดให้มากขึ้น โดยเราสามารถเลือกช่วงเวลาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราได้ค่ะ
2. Fast 5 เป็นการกินอาหารเพียงแค่ 5 ชั่วโมง และอดอาหาร 19 ชั่วโมง ซึ่งก็จะหนักขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ
3. Eat Stop Eat วิธีนี้จะเป็นการอดอาหารตลอด 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่เลดี้มอนสเตอร์แนะนำว่าวิธีนี้ไม่เหมาะกับมือใหม่ซักเท่าไหร่ เพราะอาจส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน และในวันที่ไม่ได้อดเราอาจจะกลับมากินเยอะกว่าที่ร่างกายต้องการก็ได้ค่ะ
4. 5:2 จะเป็นการกินแบบปกติ 5 วัน และกินแบบ Fasting 2 วัน โดยที่ไม่ใช่การอดทั้งวัน แต่จะเป็นการกินน้อยลง โดยคือผู้ชายสามารถกินได้ 600 Kcal ส่วนผู้หญิงกินได้ 500 Kcal หรือก็คือประมาณ 1/4 ของ Kcal ที่ร่างกายต้องการต่อวันค่ะ
5. Warrior Diet เป็นการกิน 4 ชั่วโมง และอด 20 ชั่วโมง ก็คือกินแค่มื้อเดียวให้อิ่มนั่นแหละ เน้นกินพวกโปรตีนและผัก ในช่วงที่อดสามารถกินอาหารแคลอรีต่ำได้ค่ะ
6. ADF หรือ Alternate Day Fasting เป็นการกินและอดอาหารแบบวันเว้นวัน คืออดอาหาร 1 วัน กินอาหาร 1 วัน สลับกันไปเรื่อยๆ ในวันที่อดสามารถกินอาหารแคลอรีต่ำในปริมาณน้อยๆได้ค่ะ
ข้อดี
ข้อเสีย
IF เหมาะกับใคร?
การทำ IF เหมาะกับคนที่อยากลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพในระยะยาว รวมถึงคนที่สามารถกำหนดเวลาการใช้ชีวิตของตัวเองได้ เพราะต้องกินและอดให้เป็นเวลาทุกวันถึงจะเห็นผล
- Ketogenic Diet -
Ketogenic Diet คืออะไร?
การลดน้ำหนักแบบ Ketogenic Diet คือ การกินแบบเน้นไขมันเยอะ โปรตีนปานกลาง และคาร์บน้อยที่สุด หรือบางคนก็ไม่กินคาร์บเลย พูดง่ายๆก็คือการ งดแป้ง งดน้ำตาล แล้วหันมากินไขมันและโปรตีนแทนค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่า อ่าว! กินไขมันแล้วจะผอมได้ยังไง? ต้องบอกว่าโดยปกติแล้วร่างกายเราจะดึงพลังงานจากกลูโคสที่ได้จากแป้งและน้ำตาลมาใช้ ทีนี้พอเราไม่เอาแป้งกับน้ำตาลเข้าร่างกายแล้ว เจ้าร่างกายของเรามันก็จะเริ่มหาแหล่งพลังงานอื่นมาใช้แทน ซึ่งก็หนีไม่พ้น “ไขมัน” นั่นเองค่ะ ทีนี้แหละ เจ้าไขมันในร่างกายก็จะเริ่มถูกเผาผลาญไปเรื่อยๆนั่นเอง
Ketogenic Diet กินยังไง?
การกินคีโตก็อย่างที่บอกเลยค่ะว่าต้องลดการกินแป้งและน้ำตาลแบบที่เอาเข้าร่างกายให้น้อยที่สุด เพราะฉะนั้นพวกข้าว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว อาหารชุบแป้งทอด หรือน้ำหวานต่างๆก็คืองดได้งดเลย แล้วไปเน้นที่การกินไขมันดีเป็นหลัก และรองลงมาคือโปรตีนค่ะ พวกเนื้อสัตว์ติดมัน น้ำมันหมู อะโวคาโด เนย ชีส แซลมอน กินได้เต็มที่เลย
ข้อดี
ข้อเสีย
Ketogenic Diet เหมาะกับใคร?
วิธีนี้บอกเลยว่าเหมาะกับสายเนื้อสุดๆ คนที่ชอบกินเนื้อสัตว์ เนื้อติดมัน สเต็ก หมูย่าง ต่างๆจะต้องแฮปปี้กับวิธีนี้ แต่เลดี้สายเขียวชอบกินผักกินคลีนอาจต้องปรับตัวเยอะกันซักหน่อย และวิธีนี้ยังเหมาะกับคนใจร้อน ที่อยากผอมไว แต่ไม่ใส่ใจเรื่องโภชนาการซักเท่าไหร่ด้วย แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับคนสูงวัย 50ปี ขึ้นไปนะคะ อาจจะเกิดอาการวูบหน้ามืดได้
- Atkins Diet -
Atkins Diet คืออะไร?
วิธีนี้มาจากทฤษฎีของ Dr. Atkins ที่บอกว่าการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมากๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากกระบวนการจัดการคาร์โบไฮเดรตของร่างกาย ไม่ใช่ปริมาณไขมันที่รับประทานเข้าไป ดังนั้นหลักการของวิธีนี้จึงเป็นการจำกัดปริมาณของคาร์บที่กินเข้าไปนั่นเองค่ะ
Atkins Diet กินยังไง?
ดูๆแล้วอาจจะคล้ายกับวิธีการของคีโตใช่มั้ยคะ ที่ว่าให้กินคาร์บน้อยๆหรืองดแป้งกับน้ำตาลไปเลย แต่จะมีความแตกต่างอยู่ตรงที่ คีโตจะเน้นกินไขมันเป็นหลัก รองมาคือโปรตีน แต่ Atkins Diet จะเน้นไปที่การกินอาหารประเภทโปรตีนเป็นหลัก กินเนื้อสัตว์แบบเน้นๆไปได้เลยค่ะ สายเนื้อถูกใจสิ่งนี้แน่ๆ รองลงมาก็ยังกินไขมัน และผักผลไม้ต่างๆได้ด้วย เนย นม ไข่ ชีส จัดไปค่ะเลดี้ แต่ที่ต้องเลี่ยงเลยก็คือคาร์บพวก ข้าว แป้ง ขนมปังค่ะ
ข้อดี
ข้อเสีย
Atkins Diet เหมาะกับใคร?
แน่นอนว่าเหมาะกับคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์ล่ะเนอะ แล้วก็เหมาะกับคนที่อยากลดน้ำหนักในระยะสั้นๆด้วยค่ะ เพราะวิธีนี้ลดเร็ว เห็นผลได้ตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆเลย
- Paleo Diet -
Paleo Diet คืออะไร?
วิธีนี้พูดให้เข้าใจง่ายๆคือเป็นการไดเอทด้วยการกินแบบมนุษย์ยุคหิน มนุษย์ถ้ำ หรือช่วงประมาณ 2.5 ล้านถึง 10,000 ปีก่อน เป็นยุคที่ธรรมชาติมีอะไรมาให้ก็กินอย่างนั้น ยังไม่รู้จักแม้แต่การเพาะปลูก
Paleo Diet กินยังไง?
การลดน้ำหนักด้วยการกินแบบ Paleo Diet นี้จะเน้นที่การกินอะไรที่ออแกนิค คลีนๆ ไม่ปรุง ไม่แปรรูป ก็คือการหวนคืนสู่ธรรมชาตินั่นเองค่ะ สิ่งที่กินได้ก็มีพวกเนื้อสัตว์ไม่ติดมันอย่างเช่น เนื้อปลา ไข่ ผลไม้ที่ไม่หวานมาก ธัญพืช ผัก ที่คาร์บไม่สูง น้ำมันมะกอกเป็นต้น
ข้อดี
ข้อเสีย
Paleo Diet เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่อยากกินอาหารที่หลากหลาย คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ชอบกินอาหารแบบไม่ปรุงแต่ง อาหารชีวจิตต่างๆ
เป็นยังไงกันบ้างคะ 4 วิธีไดเอทด้วยการ “กิน” ที่เลดี้มอนสเตอร์นำมาฝากกันวันนี้ ทุกวิธีมีทั้งข้อดีข้อเสีย และเหมาะกับแต่ละคนต่างกันนะคะ เลดี้คนไหนที่กำลังอยากลดน้ำหนักดูแลสุขภาพก็เลือกไปทำกันดูน้า ได้ผลยังไงอย่าลืมมาแชร์กันบ้างนะคะ