วิธีเลือก Skin Care สำหรับสภาพผิวทุกประเภท ผิวแบบเราเหมาะกับสกินแคร์แบบไหน มาเช็คกัน!!

26 พ.ย. 2564 by @ 1234 5678

328

ถูกอ่าน

เสียเงินเป็นแสน แต่ผิวก็ไม่ดีขึ้น! พี่เลดี้เชื่อว่า สาวๆเคยมีประสบการณ์นี้ ทั้งซื้อครีมตามรีวิว ซื้อครีมแพงๆมาโบกหน้าเอาแบบฉ่ำๆ แต่ใช้แล้วแพ้ หน้าไม่ใส สิวก็ขึ้นอีกต่างหาก! นั่นเป็นเพราะ สภาพผิวของสาวๆแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ดังนั้น การเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวจึงแตกต่างกันไปเช่นกัน วันนี้พี่เลดี้เลยมีข้อมูลเล็กๆน้อยๆ พาสาวๆมาทำความรู้จักและเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวตัวเองกันค่ะ

เช็คผิวของตัวเองว่า เป็นผิวแบบไหน?

ก่อนจะไปเลือกใช้สกินแคร์ตัวไหน ยังไง เราต้องแวะมาเช็คสภาพผิวกันก่อนค่ะสาวๆ ว่าเรามีสภาพผิวแบบไหน ที่สิวขึ้นบ่อยเนี่ยผิวมันจริงมั้ย? หรือ จริงๆเราแค่ผิวแพ้ง่าย? ตามพี่เลดี้มาได้เลยค่า

ผิวธรรมดา : ผิวไม่มัน ไม่แห้ง รูขุมขนเล็ก เนียนเหมือนผิวเด็ก
ผิวแห้ง : รู้สึกหน้าแห้ง ตึง ใช้หลังมือแตะแล้วรู้สึกสากหรือหยาบกร้าน อาจมีการลอกเป็นขุย
ผิวมัน : ผิวมันทั่วทั้งใบหน้า ถ้าใช้ซับมันซับแล้วมีน้ำมันติดออกมา
ผิวผสม : ผิวมันช่วงหน้าผาก จมูก คาง (T-Zone) แต่ช่วงแก้มแห้ง
ผิวเป็นสิว : มีสิวทุกชนิดบนใบหน้า สิวอักเสบ อุดตัน สิวเสี้ยน ผิวมีอาการแดงง่าย
ผิวบอบบางแพ้ง่าย : ใช้อะไรก็แพ้ เป็นผื่น ผด เป็นสิวบ่อย

เมื่อรู้จักสภาพผิวของเรากันแล้วก็ถึงเวลาเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับผิวกันค่ะ เพื่อที่เราจะได้บำรุงผิวกันได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดอาการแพ้ ใช้แล้วเป็นสิวง่าย แบบที่สาวๆเคยเจอ ซึ่งผิวแต่ละแบบก็จะเหมาะกับประเภทของสกินแคร์ที่แตกต่างกันไปค่ะ

ประเภทของสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวแต่ละแบบ

เนื้อครีม (Cream) เหมาะกับผิวแห้งและผิวธรรมดา

สกินแคร์เนื้อครีม เป็นประเภทที่สาวๆทุกคนน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด มีเนื้อสัมผัสเข้มข้นสุด ใช้เวลานานกว่าจะซึมเข้าผิว เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำมันและน้ำผสมกันอยู่ จึงให้ความชุ่มชื้นมาก เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งหรือผิวธรรมดา สำหรับผิวผสมให้เลือกทาเฉพาะบริเวณใบหน้าที่มีผิวแห้งก็พอค่ะ

เนื้อโลชั่น (Lotion) เหมาะกับผิวธรรมดาและผิวผสม

นอกจากโลชั่นบำรุงผิวกายแล้วยังมีโลชั่นสำหรับผิวรุงผิวหน้าอีกด้วย บางแบรนด์อาจเรียกเนื้อผลิตภัณฑ์นี้ว่า ฟลูอิด (Fluid) ความเข้มข้นรองลงมาจากเนื้อครีม สัมผัสเหลวกว่า เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำจะมากกว่าในเนื้อครีม จึงไม่ทำให้ผิวมันจนเกินไป เหมาะกับคนสภาพผิวธรรมดาและผิวผสมค่ะ

เจล (Gel) เหมาะกับผิวมันและผิวแพ้ง่าย

เจลจะมีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะ รู้สึกเย็นเวลาเจลสัมผัสลงผิว เพราะมีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก ในขณะที่มีส่วนประกอบของน้ำมันน้อยหรือไม่มีอยู่เลย เป็น Oil-free แต่ไม่ค่อยให้ความชุ่มชื้น จึงเหมาะกับคนผิวมัน หรือคนผิวแพ้ง่ายมากกว่าค่ะ

เซรั่ม (Serum) เหมาะกับคนผิวแห้งและผิวผสม

เซรั่ม มีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวง่าย เป็น Oil-Based มีความเข้มข้นของตัว active ingredients มาก จึงบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน เหมาะกับคนผิวแห้งจนถึงผิวผสมที่อยากฟื้นฟูสภาพผิวแบบเร็วๆ แต่เพื่อผลลัพธ์ผิวที่ดี พี่เลดี้กระซิบว่า สาวๆควรจะใช้คู่กับเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น เช่น ครีมหรือเจล เพื่อบำรุงผิวชั้นนอกแบบครบสูตรกันไปเลยค่ะ

เอสเซนส์ (Essence) เหมาะกับคนผิวผสม ผิวมันและผิวบอบบาง แพ้ง่าย

เอสเซนส์เป็นตัวบำรุงผิวชั้นในเช่นเดียวกับเซรั่ม จึงต้องเลือกใช้ตัวเพียงตัวเดียว มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใสๆ เพราะเป็น Water-Based จึงทำให้เอสเซนส์ซึมเข้าสู่ผิวเร็วมาก ไม่เหนอะหนะผิว บางแบรนด์ที่เรียกผลิตภัณฑ์ว่า น้ำตบ ก็คือ เนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ค่ะ เหมาะกับคนผิวผสมจนถึงผิวมันและผิวบอบบาง แพ้ง่ายค่ะ

ผิวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง บอกเลยว่า ไม่เกินจริง แค่สาวๆนำทริคที่พี่เลดี้เอามาฝากไปปรับใช้กับสภาพผิวให้ถูกต้อง รับรองว่า ผิวดีผิวใส อยู่ใกล้แค่เอื้อมค่ะ ยังไง สาวๆคนไหนเคยใช้สกินแคร์แบบไหนแล้วได้ผลเป็นยังไงบ้าง ก็อย่าลืมเม้นท์และแชร์บอกพี่เลดี้กันได้นะคะ

1234 5678